วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

ประตูเมืองกาญจนบุรีก็คือฉัน..ปากแพรก



   หลังจากสงครามเริ่มสงบ เจ้าพวกพม่าไม่มาวุ่นวายกับสยามประเทศมากนัก ยุทธศาสตร์การรบเปลี่ยนไป ฉัน..ปากแพรก มีชัยภูมิในการตั้งรับข้าศึกได้ดีกว่าเก่า อีกทั้งยังสะดวกในการค้าขายกับเมืองต่างๆอีกด้วย   รัชกาลที่ 3 ท่านได้ทรงย้ายเมืองกาญจนบุรีจากลาดหญ้า มาตั้งยังอยู่กับฉัน..ปากแพรก  ฉันหละดีจั้ย...ดีใจ!!! ภูมิจั้ย...ภูมิใจ!!!



ประตูเมืองที่สร้างก่อด้วยอิฐ ด้านบนตัวอักษรระบุปี พ.ศ. 2374 ที่สร้างเมือง ตรงนี้หละที่เป็นจุดเกิดใหม่ของฉัน..ปากแพรก เป็นชุมชนปากแพรก ถนนปากแพรก ตลาดปากแพรก กระทั่งฉัน..ปากแพรก อายุกี่ปีเค้าก็นับจากตรงนี้หละจ๊ะ ดีใจจังแก่น้อยลงหน่อย!!!

สถานที่ที่ไม่ใช่ ชุมชน ถนน ตลาด ปัจจุบันก็กลายเป็นตำบลปากแพรกไป

ส่วนฉัน...ลั่นลา...ณ เขตเมืองกาญจน์จร้า...


พูดถึงประตูเมืองกาญจนบุรีอยู่มาน้านาน รักษารูปร่างได้ดีมั๊กๆ  ด้านหน้าประตูมีพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 3 ส่วนด้านข้างเป็นแนวกำแพงเมืองเก่าตั้งอยู่บริเวณชุมชนใหม่ของฉัน...ปากแพรก


บริเวณประตูเมืองเก่า จะใช้เป็นที่แบ่งฉันออกเป็นสองชุมชนจ๊ะ ซ้ายมือ เรียกว่า บ้านใต้ ขวามือเรียกบ้านเหนือ


มีบ้านใต้ก็ต้องมีวัดใต้ มีพระดังหลวงปู่เปลี่ยน หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อวัดใต้นั้นแหละ เป็นพระเกจิที่เป็นที่เคารพนับถือของคนเมืองกาญจน์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ก่อนถึงวัดใต้นี่มีโรงงานกระดาษแห่งแรกของไทย ที่เอาใช้ทำธนบัตรหนึ่งบาท ห้าบาท ก็ถูกทิ้งร้างค้างเติ่งอยู่ที่ชุมชนบ้านใต้นี่หละ...เฮอ!!!...ทำไมไม่ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวนะ...เฮอ...เฮอ...เฮอ..

ทีนี้บ้านเหนือจะไม่มีวัดก็ใช่ที่!!!...แน่นอนก็ต้องเป็นวัดเหนือซิ...อยู่ติดกับวัดญวนเลยยย!!! ที่วัดเหนือนี่มีหลวงพ่อดีเป็นพระเกจิดังมาก...

สรุปว่าที่ถนน ชุมชน ตลาด ของฉัน..ปากแพรกนี่ มีพระคุ้มตลอดจ๊ะ...
.

และบ้านทั้งสองฝั่งของประตูเมืองกาญจนบุรีก็คือฉัน..ปากแพรก...


 ...

ด่วน!!!เจอบทความปากแพรกที่ไหน กด Like หรือ share ที่นั้น ...ก่อนที่เอกชนอย่างพวกเขา...จะหมดลม!!!!
ดูข้อมูลพวกเขาได้ที่ www.facebook.com/pakprak
เพื่อสนับสนุนให้ถนนสายประวัติศาสตร์เส้นนี้...ยืนยาวต่อไป...
เพราะที่นี่ "ภาครัฐไม่ใส่ใจ"...ฉันหละหน่าย!!!
...



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น