วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ท่องเที่ยวไปในปากแพรก





ด้วยความเข้มขลังของตึกรามบ้านช่องแบบเก่าๆ  ดั้งเดิม...หากได้มีโอกาสมาเดินปากแพรก แนะนำให้บริหารคอมาสักนิดครับ เพราะของดีๆ มันจะอยู่บนๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ ลายฉลุไม้เอย ระเบียงเอย มีแต่ความสวยงาม "น่าประทับใจ" ทั้งนั้น ที่ผมเน้นคำว่าน่าประทับใจ ไม่ใช่เพราะอะไรครับ เพราะถ้าได้อ่านป้ายไวนิลแนะนำบ้านอาคารเก่าแต่ละหลัง ชุดคำพูดส่วนใหญ่มักจะมีคำว่าน่าประทับใจปรากฏอยู่เสมอ ซึ่งก็ชวนให้น่าประทับใจจริงๆ แหละ



 บรรยากาศของย่านนี้ยังคงปกติเหมือนเดิม คือไม่ดูเป็นย่านที่เมคมากไป ผู้คนยังใช้ชีวิตตามปกติ ฟีลคล้ายโพธารามที่ราชบุรี คือชาวบ้านเค้ารวมตัวกัน เพื่อฟื้นฟูดูแลอนุรักษ์สิ่งดีๆ ให้คงไว้ ไม่ใช่เพื่อการต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่เป็นการทำเพื่อให้ลูกหลานบ้านนี้เมืองนี้ได้รับรู้เรื่องราวที่ผ่านมายาวนานของย่านนี้



นอกจากนี้ยังมีอาคารที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ ศาลเจ้าแม่กวนอิม บ้านคชวัตร บ้านเดิมของสมเด็จพระสังฆราช บ้านชวนพานิช ร้านบุญเยี่ยมเจียระไน ฯลฯ

การได้ลองมาเดินเล่นย่านเก่าแบบนี้ทำให้ผมเดินช้าลงกว่าที่เคยเดินในกรุงเทพฯ นึกได้ว่าตอนที่เดินในกรุงเทพฯ ผมมักจะไม่ค่อนสนใจสองข้างทางมากนัก เพราะมันเต็มไปด้วยภาพน่าเบื่อแสนชินตา แผงลอยเดิมๆ ฟุตบาทเดิมๆ ผู้คนเดิมๆ ที่ผมไม่คิดจะทำความรู้จัก ในขณะที่เมื่อได้ลองเดินในย่านปากแพรกนี้

นอกจากที่ผมจะเดินช้าลงแล้ว ละเมียดข้างทางมากขึ้นแล้ว อยากพบปะทำความ รู้จักผู้คนสองข้ามทางมากขึ้นแล้ว ผมยังสบายใจมากกว่าอยู่ในกรุงเทพฯมาก

ผมค้นพบว่าการได้มาเป็นคนแปลกที่แปลกถิ่น คือสิ่งหนึ่งที่คนเบื่อเมืองควรกระทำเลยลองมาคิดดูว่า ถ้าเราคิดว่าเราเป็นคนแปลกที่แปลกถิ่นในเมืองดูบ้างล่ะ มันจะเป็นอย่างไร?



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น