วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ร้านชวนพานิช







บ้านชวนพานิช ลวดลายที่ลูกกรงด้านหน้าเป็นลายแบบจีน... ร้านชวนพานิช ผมแวะนั่งพูดคุยกับลุงสุรพล ตันติวานิช เจ้าของร้าน เขาชี้ชวนให้ดูตู้สินค้าไม้สักติดกับผนัง มันไม่เคยมีปัญหาให้ต้องซ่อมแซมแต่อย่างใด "บ้านตึกแต่ก่อนนั้นสร้างดี ใช้ของดี เลยทนนาน" ลุงสุรพลว่าอย่างนั้น

"บ้านชวนพานิช" เป็นตึกแถว 2 ชั้นครึ่ง ประตูบ้านเป็นไม้หนาแบบเฟี้ยมหน้าต่างเป็นลูกกรงเหล็ก ลวดลายที่ลูกกรงด้านหน้าเป็นลายแบบจีน

"บ้านตึกแต่ก่อนนั้นสร้างดี ใช้ของดี มันเลยทนนาน" ในแสงสลัวของร้านชวนพานิช ผมเดินผ่านเข้าไปนั่งคุยกับลุงสุรพล ตันติวานิช ในวันที่เลขหลัก 5 มาเยือนชีวิต และตึกแถว 3 ห้องแห่งนี้ดูแลเพาะบ่มตระกูลของเขามากว่า 5 รุ่น

"เดี๋ยวนี้ไม่ได้ขายของเหมือนรุ่นก๋งรุ่นเตี่ยแล้ว มันค่อยๆ จางไป" เป็นคำพูดที่คล้ายๆ กันของคนที่อยู่ในห้องแถวย่านตลาดของปากแพรก อาจคล้ายการค้าโบราณได้ซบเซา แต่จริงๆ แล้วคือคนรุ่นบรรพบุรุษล้วนผ่านการสร้างตัวและมั่งคั่งจนลูกหลานในปัจจุบันนั้นสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไม่ลำบากอะไรนักเข้ามานั่งอยู่ในร้านชวนพานิช 

ลุงสุรพลชี้ชวนให้ดูตู้สินค้าไม้สักใหญ่โตที่ติดอยู่กับผนัง เขาว่ามันไม่เคยมีปัญหาให้ต้องซ่อมแต่อย่างไร "ไม้พวกนี้ก็เหมือนกับที่ก๋งใช้สร้างบ้าน มาจากป่าเขาที่ทองผาภููมิโน่น"


นอกเหนือไปจากไม้ ปูนพอร์ตแลนด์ที่ต้องสั่งมาจากเมืองนอกก็เป็นที่นิยมในสมัยนั้น "บ้านใช้ปูนหล่อทั้งหลัง ใช้ใบเหล็กเสียบเป็นบล็อกแล้วหล่อปูนลงมาเลย ผนังหนามาก ไม่เย็นก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว" ตอนนั้นบ้านใหญ่โตทั้งหลังอย่างนี้ คนรุ่นก่อนใช้เงินสร้างไปถึง 9,000 บาท "เป็นเดี๋ยวนี้ก็หลายอยู่นะ"

เราคุยกันเรื่องบ้านของลุงอยู่อีกนาน หลายส่วนนั้นมีคำบอกเล่าอธิบายอย่างน่าทึ่ง ช่องตรงกลางบ้านที่เรียกว่า "แจ๊"นั้นไม่เพียงเอาให้ลมระบาย แต่ยังมีใว้ขนถ่ายสินค้าขึ้นไปเก็บ "แต่ก่อนมีรอกโยงจากหลังคาเลย บ้านตึกมันขนข้าวของขึ้นลงลำบาก คนขนสินค้าลงเรือ เดินแป๊บเดียวก็ขึ้นมาหน้าบ้านเลย"



ref:

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น