ณ ปากแพรก บ้านหลายหลังมีการออกแบบร่วมสมัยคล้ายกับอาคารในสมัยรัชกาลที่
5 และแต่ละบ้านในชุมชนเกือบทุกหลังมีประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่งต่างกันออกไป เช่น...
บ้านสิทธิสังข์ ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นร้านกาแฟ
บ้านบุญเยี่ยม เจียระไน
ซึ่งมีลักษณะสถาปัตกรรมที่ผสมผสานมีเสาโรมันและระเบียงยื่นออกมา เป็นต้น
และในชุมชนนี้เองก็มีบ้านขององค์สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันอยู่ด้วย
หลักฐานชัดเจนถึงความเป็นชุมชนร่วมสมัย
นอกจากสถานที่สำคัญ เช่น วัดต่างๆ อาคารร่วมสมัยหลายแห่ง
ยังมีการจัดตั้งโรงงานกระดาษแห่งแรก โรงพยาบาล
รวมถึงบ้านพักของบุคคลสำคัญของกาญจนบุรีอีกหลายท่าน
อาคารบ้านเรือนบางส่วนของถนนปากแพรกจึงถูกทิ้งร้าง
บางส่วนถูกต่อเติมไปจากเดิม บางหลังถูกรื้อและสร้างใหม่ไปตามยุคสมัย ทำให้ความเป็นชุมชนเก่าบนถนนปากแพรกเริ่มขาดการสืบทอดทางประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตในท้องถิ่น
เช่นเดียวกับชุมชนดั้งเดิมอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม
การอนุรักษ์คุณค่าด้านประวัติศาสตร์และเสน่ห์ของบ้านเรือนบนถนนปากแพรกยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่
อาทิเช่น กำแพงเมืองเก่า ประตูเมือง
ศาลหลักเมือง วัดต่างๆ อันได้แก่
วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) วัดถาวรวราราม (วัดญวน)
พิพิธภัณฑ์สงคราม (JEATH war museum) และอาคารบ้านเรือนอีกหลายแห่ง
ซึ่งล้วนมีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คนเมืองกาญจน์
มีข้อมูลจากลุงคนหนึ่งเล่าว่า
"
ลุงว่าแต่ก่อนแม่น้ำไม่ได้ไหลห่างบ้านและต่ำลงไปแบบนี้ "ก่อนหน้านี้มีคลองนอก
คลองใน สันดอนมันกว้าง หน้าน้ำมาทีก็รวมเป็นสายเดียว สมัยนายกเทศมนตรีนิทัศน์
ถนอมทรัพย์นั่นละ ที่ถมตลิ่งให้มันกว้างออกไป บ้านเรือนขยายตัวไปอีกกว้าง
แม่น้ำเลยไปอยู่ข้างล่างเขื่อนโน่น"
อ่าวววววววววววววว...แบบนี้ทำลายประวัติศาสตร์...ทำอย่างไรหละทีนี้??? พ่อแม่พี่น้องเอ๋ยยยยยยยยย....
ref.
๑๗๗ ปี เมืองชิโน-โปตุกีส บ้านปากแพรก
สถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า
“พิพิธภัณฑ์มีชีวิต” ความหวังของการอนุรักษ์ชุมชนบนถนนปากแพรก
ปากแพรก ถนนสายสั้น คืนวันทอดยาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น