วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ร้านสิทธิสังข์


ร้านสิทธิสังข์ อาคารปูน 2ชั้น รูปแบบประยุกต์ผสมสไตล์ตะวันตก ระบบโครงสร้างเป็นผนังรับน้ำหนัก อายุเกือบ 100ปี! บ้านสิทธิสังข์ สร้างขึ้นในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส มีจุดเด่นอยู่ที่ปูนปั้นลายก้านขดเหนือป้ายชื่อบ้าน รวมทั้งประตูบานเฟี้ยมใช้สีทาบ้านที่ทำจากดินซึ่งนำมาจากทุ่งนาคราช 


ปัจจุบันบ้านนี้ถูกเปลี่ยนเป็น ร้านกาแฟร่วมสมัยเป็นร้านกาแฟเล็กๆ น่ารักน่านั่งชิลล์เพลินดูรถวิ่งสวนไปสวยมาดี คนขายก็น่ารักครับ เพราะเค้าพูดภาษาเมืองกาญจน์

ออกแบบตกแต่งยังคงความเก่าไว้ได้แบบเนียนๆ โค้งอาร์กบนชั้นสองของตึก ตรึงเท้าผมให้ยืนพิจารณาอยู่เนิ่นนาน ฉลุไม้เหนือกรอบประตู กับภาพปูนปั้นลายก้านขด บอกถึงฝีมืออันปราณีตของช่าง กับรสนิยมของผู้อยู่อาศัย

ตึกเก่า 2 ชั้นติดกัน 3  คูหา สไตล์โคโลเนียล บานประตูเฟี้ยม ระเบียงชั้นบนทำเป็นช่องโค้ง  ปัจจุบันได้รับการตกแต่งทาสีใหม่ให้เป็นร้านกาแฟร่วมสมัยภายใต้โครงสร้างเดิม มีบริการเครื่องดื่มและขนมหวานต่างๆ



"บ้านสิทธิสังข์" ตึก ทำด้วยปูนทั้งหลังมีด้วยกัน  หน้าบ้านมีระเบียงยื่นออกมามีเสาปูนรองปูนรองรับ ที่เสามีบัวหัวเสาประดับ ด้านบนทำเป็นรูปโค้ง บานประตูเป็นแบบเฟี้ยม ช่องลมเหนือกรอบประตูมีลายฉลุเป็นลายเครือเถา เหนือลายฉลุเป็นภาพปูนปั้นลายก้านขด มีจารึกบอก พ.ศ. ที่สร้าง สีที่ใช้ทาบ้านนำดินมาจากทุ่งนาคราชมากรองแล้วผสมกับน้ำข้าวเหนียวใช้ทา ซึ่งยังมีความคงทนมาจนทุกวันนี้ และเป็นบ้านที่ยังไม่มีการซ่อมแซมและต่อเติมใดๆ เป็นต้น ซึ่งบ้านต่างๆเหล่านี้ นับเป็นสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์สืบไป



ห้องแถวปูนสีเหลืองสด 3 คูหาที่บ้านสิทธิสังข์ ใครเลยจะพลาดบรรยากาศเช่นนี้ไปได้ ตึกเก่างดงามหลังนี้สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2463 สมัยรัชกาลที่ 5 โค้งอาร์กที่ชั้นบนนั้นดึงสายตาให้ออกมายืนมองที่ฝั่งตรงข้าม มองไล่ตั้งแต่บานเฟี้ยม เห็นชัดไปถึงช่องลมเหนือกรอบประตูที่งามด้วยงานฉลุไม้เป็นลายเครือเถา รวมไปถึงภาพปูนปั้นลายก้านขดเพลินตา sanook

 .................................
ข้อมูลเพิ่มเติม:

วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 18 ฉบับที่ 305 เส้นทางเศรษฐี  หน้า 29

"สิทธิสังข์"ร้านกาแฟ...น่านั่ง น่าชม
"...เซ้งต่อทุกอย่าง เหมือนเราไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ เลยเริ่มต้นการบริหารร้านกาแฟ จากการศึกษาเครื่องชงกาแฟก่อนว่า ในท้องตลาดมียี่ห้ออะไรบ้าง แต่ละรุ่น แต่ละราคา ต่างกันตรงไหนบ้าง"

ท่ามกลางการแข่งขันเข้าขั้นรุนแรงของ "ร้านกาแฟ" ตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย ถ้าใครมีต้นทุนดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาร้านหรือการจัดการภายในแล้ว ย่อมได้เปรียบคู่แข่งเป็นเรื่องปกติ

สำหรับร้านกาแฟ "สิทธิสังข์" ซึ่งตั้งอยู่ภายในตึกโบราณอายุเกือบร้อยปี สไตล์โคโลเนียล ขนาด 2 ชั้น 3 คูหา บนถนนปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นั้น

อาจจัดอยู่ในกลุ่มกิจการ "ต้นทุน" ไม่ธรรมดา เห็นได้จากหลักฐานยืนยัน ใครที่สัญจรผ่านไป-ผ่านมา ในย่านนั้น เป็นต้องเหลียวหลังหันกลับไปมองในความงามแบบ "คลาสสิก" ของร้านแห่งนี้กันแทบทุกราย

แต่การมี "ร้านสวยๆ" เพียงอย่างเดียว ใช่จะ สร้าง "ความรวย" ให้กับเจ้าของกิจการได้ในพริบตา

เพราะใครๆ ก็รู้...การทำธุรกิจ "ไม่ง่าย" อย่างใจคิด

เจ้าของรับช่วงต่อ

ปัญหามาปัญญามี

คุณสุภาพ สิทธิสังข์ เจ้าของกิจการวัย 58 ปี กรุณาสละเวลามาต้อนรับและนั่งพูดคุยด้วยแบบเป็นกันเอง โดยออกตัวก่อนว่า กิจการร้านกาแฟ "สิทธิสังข์" ที่เธอดูแลอยู่นี้ ยังไม่ประสบความสำเร็จถึงเป็น "เศรษฐี" แถมยังอยู่ในลำดับของการ "เริ่มต้นใหม่" อีกด้วย


"ร้านนี้เป็นบ้านเก่าของขุนขจิตระบิน ต้นตระกูลสิทธิสังข์ ก่อนหน้านี้ปิดไว้เฉยๆ จนเมื่อราว 2 ปีก่อนหน้านี้มีคนมาติดต่อขอเช่าทำร้านกาแฟ รับโครงการถนนคนเดิน เลยเปิดบ้านให้ปรับปรุงใหม่บางส่วน และเปิดให้เช่าตั้งแต่นั้นมา" คุณสุภาพ ในฐานะสะใภ้ตระกูล "สิทธิสังข์" เริ่มต้นให้ฟัง

ก่อนเล่าต่อ แต่เนื่องจากโครงการ "ถนนคนเดิน" ในช่วงเวลานั้น ไม่ประสบความสำเร็จ กระทั่งต้องเลิกไปภายในเวลาไม่นานนัก ร้านกาแฟ "สิทธิสังข์" ภายใต้การบริหารของผู้เช่ารายดังกล่าว ซึ่งหวังจะได้ลูกค้าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างถิ่นเป็นหลัก จึงต้องพลอยซบเซาและต้องถอยไปด้วยโดยปริยาย

"พอเขาเลิกเช่า เราจึงเข้ามาทำต่อ เพราะอยากอนุรักษ์บ้านหลังนี้ไว้ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักเรียน-นักศึกษา ด้านศิลปะและสถาปัตยกรรม" คุณสุภาพ บอกถึงความตั้งใจ ก่อนเผยให้ฟังตรงๆ

"แต่ทุกวันนี้รายรับไม่ได้ดีมาก อาจเป็นเพราะคนยังไม่ค่อยรู้จัก และกาแฟสดมีขายเยอะ เฉพาะในตัวเมืองกาญจน์ น่าจะมีถึงร้อยเจ้า แต่ที่ยังอยู่ได้ คงเป็นเพราะไม่ต้องเสียค่าเช่าร้าน และรายได้หลักมาจากค่ารับฝากรถหลังร้านมากกว่า"

และด้วยความที่ไม่เคยค้าขายมาก่อน เพราะรับราชการครูมาตลอดจนใกล้วัยเกษียณ ประกอบกับเป็นคนไม่ดื่มกาแฟ เมื่อมีเหตุให้ต้องเข้ามาบริหารร้านกาแฟ จึงไม่มีความถนัดและเป็น "ข้อสอบ" ค่อนข้างยาก สำหรับอาจารย์ท่านนี้

"ตอนนั้นคนเช่าเดิมจะเซ้งเครื่องชงกาแฟให้ด้วย แต่ไม่เอา เพราะถ้าเซ้งต่อทุกอย่าง เหมือนเราไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ เลยเริ่มต้นการบริหารร้านกาแฟ จากการศึกษาเครื่องชงกาแฟก่อนว่า ในท้องตลาดมียี่ห้ออะไรบ้าง แต่ละรุ่น แต่ละราคา ต่างกันตรงไหนบ้าง" คุณสุภาพ เล่าอย่างนั้น

ก่อนไล่มาถึงกลยุทธ์ทำให้ร้านมียอดขายเพิ่มขึ้น ประเด็นนี้ คุณสุภาพ บอก ร้านของเธอค่อนข้างได้เปรียบตรงความสวยงามดั้งเดิม คนที่มาส่วนใหญ่ จึงมาเพื่อถ่ายรูปบรรยากาศร้านมากกว่าตั้งใจมาดื่มกาแฟโดยตรง

เธอจึงต้องพยายามประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ทั้งทำป้ายไปตั้งตามสถานที่ต่างๆ และแจ้งข่าวสารของร้านผ่านช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ให้ลูกค้าทั้งในท้องถิ่นและต่างถิ่น เกิดการรับรู้ว่า ร้านกาแฟ "สิทธิสังข์" นอกจากจะมีบรรยากาศน่าสนใจแล้ว สินค้าหลักที่จำหน่ายอยู่นั้น ยังมีคุณภาพดีและราคาไม่แพงอย่างที่คิด

หาพันธมิตร

สร้างจุดแข็ง

ด้วยต้องการให้กิจการร้านกาแฟแห่งนี้ มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น คุณสุภาพจึงใช้วิธีการหา "พันธมิตร" ทางธุรกิจ โดยชักชวนลูกศิษย์ ซึ่งมีฝีมือด้านการทำเบเกอรี่ เข้ามาเสริมให้เกิดจุดแข็ง

คุณสรีรัตน์ สุขสม เรียกแบบกันเองว่า คุณก้อย เจ้าของกิจการ "บ้านขนม by สรีรัตน์" พันธมิตรทางธุรกิจของ "สิทธิสังข์" ซึ่งปัจจุบันมีจุดผลิตขนมเค้กหลากหลายรสชาติ อยู่บริเวณด้านหลังของร้านกาแฟสิทธิสังข์นั่นเอง

ส่วนการเข้ามาจับมือกันทำธุรกิจครั้งนี้ คุณก้อย เล่าว่า คุณแม่ของเธอมีฝีมือด้านการทำเบเกอรี่ เคยขายส่งขนมพวก เค้กกล้วยหอม แยมโรล ให้กับร้านค้าในเมืองกาญจน์ แต่ไม่เคยทำแบรนด์ ลูกค้าจึงไม่สามารถเข้ามาอุดหนุนได้ต่อเนื่อง

กระทั่งราวปี 2550 คุณแม่ของเธอเริ่มมีปัญหาสุขภาพ คุณก้อยจึงลาออกจากงานประจำด้านคอมพิวเตอร์ที่ทำมาเกือบ 10 ปี แล้วกลับมาช่วยดูแลครอบครัว ด้วยการทำขนมขายเหมือนกับคุณแม่ แต่ใส่ "ลูกเล่น" ไม่ซ้ำ เข้าไปในผลงาน เช่น ขนมเค้กสูตรใหม่ รสชาติไม่ดาษดื่น ออกมาเสริม

และด้วยมีปัญหาติดขัดบางประการเกี่ยวกับหน้าร้าน คุณก้อยจึงหาทางแก้ไข โดยใช้โซเชียลมีเดีย ให้เกิดประโยชน์ คือ เปิดหน้าร้านขายขนมบนเฟซบุ๊ก

"เมื่อก่อนเล่นเฟซบุ๊กอยู่แล้ว แล้วค่อยเกิดความคิด ทำไมไม่ทำเฟซของร้านขึ้นมาบ้าง เพราะมันสามารถเป็นสื่อทำให้คนเห็นเราและรู้ว่าเราทำอะไรได้" คุณก้อย บอกเหตุผลและว่า เริ่มขายขนมเค้กผ่านเฟซบุ๊กเมื่อประมาณปี 53 โดยถ่ายรูปขนมเค้กที่ทำออกมาลงไว้ พอมีลูกค้าสนใจเขาจะติดต่อเข้ามาเอง

ขายเบเกอรี่ผ่านเฟซบุ๊กได้พักหนึ่ง คุณก้อยจึงได้พบกับคุณสุภาพ ซึ่งเป็นอาจารย์ของเธอสมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษา และได้รับการชักชวนให้มาทำขนมที่ "สิทธิสังข์" โดยทำเค้กส่งให้ร้านกาแฟ และขายส่งทั้งทางตรงและผ่านเฟซบุ๊กได้เหมือนเดิม

"ทุกวันนี้มีร้านกาแฟอื่น มารับขนมเค้กไปขายบ้าง ส่วนความตั้งใจในธุรกิจ อยากรับจัดอาหารว่างตามงานสัมมนา งานศพ ในจังหวัดกาญจนบุรี เพราะมั่นใจว่าขนมของเรา รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง แม้ทุกวันนี้จะมีคนทำอยู่หลายเจ้าแล้ว แต่เชื่อว่ายังมีที่ว่างแทรกเข้าไปได้" คุณก้อย บอกอย่างนั้น

....................

แม้เริ่มต้นทำธุรกิจเหมือน "ตกกระไดพลอยโจน" แต่ยังพยายามประคับประคองให้กิจการสามารถดำเนินไป โดยไม่ยอมถอดใจกับอุปสรรคของ "สิทธิสังข์" นับเป็นกรณีศึกษาน่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการน้อย-ใหญ่

หากท่านใดสนใจอยากไปอุดหนุนให้กำลังใจ ร้านกาแฟ "สิทธิสังข์" ตั้งอยู่บนถนนปากแพรก หากมาจากตัวเมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าไปทางประตูเมือง ให้เลี้ยวขวา เข้าถนนปากแพรก ร้านกาแฟน่านั่ง แห่งนี้ อยู่ทางด้านซ้ายมือ


สนใจติดต่อจองโต๊ะหรือสั่งเค้กอร่อยๆ สอบถามไปได้ที่ โทรศัพท์  (081) 858-1015 อีเมล Noisuparp@gmail.com หรือ https://www.facebook.com/baansittisang

ref.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น